เลือกวิธีการถูก

เท่ากับช่วยประหยัดงบพัฒนาองค์กร

WORKSHOP เหมาะกับใคร

การ WORKSHOP หรือการอบรมเชิงปฏิบัติการ นิยมใช้กับหัวข้ออบรมที่จำเป็นต้อง “ฝึกปฏิบัติจริง” โดยส่วนใหญ่ วิทยากร จำเป็นต้อง FACE TO FACE กับผู้เข้าร่วมอบรมแบบ 100% มีการสอนทั้ง ทฤษฎี ตัวอย่าง ทดลองทำให้ดูและให้ผู้เข้ารับการอบรมทดลองลงมือทำเองโดยมีวิทยากรคอยแนะนำอยู่ตลอดในการอบรมลักษณ: Soft Skil จะนิยมใช้เพื่อพัฒนาผู้นำและสานสัมพันธ์ทีมงานส่วนในภาคธุรกิจ หรืออุตสาหกรรม จะใช้เพื่อฝึก Hard Skill เป็นหลักทำให้วิธีการ WORKSHOP ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับทุกๆรูปแบบการพัฒนาองค์กรโดยเน้นหลักสูตร NEED TO KNOW เป็นสำคัญ อบรมให้กับระดับ Junior จนถึง Top Management เพียงปรับรูปแบบการจัด และ จำนวนผู้เข้าร่วมตามเหมาะสม

CONSULTANT เหมาะกับใคร

ที่ปรึกษา คือบุคคล หรือ คณะบุคคล ที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญตรงกับปัญหาในเรื่องต่างๆ ที่ผู้ว่าจ้างกำลังเผชิญอยู่ เช่น ระบบไอที แผนพัฒนาบุคลากรการกำหนดกลยุทธ์องค์กร การพัฒนาวัฒนธรรมองค์กร การสร้างภาพลักษณ์ เป็นต้น โดยการจ้างที่ปรึกษาจะต้องมีการกำหนดผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับงบประมาณชัดเจนอาจมีการอบรมรวมอยู่ภายใต้โครงการได้ เพื่อใช้สร้างการรับรู้ร่วมกันและจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากบุคลากรภายในองค์กรอย่างมากแม้วิธีการจ้างจะมีความซับซ้อนกว่าการจัดอบรม แต่ผลลัพธ์ก็เป็นประโยชน์มากกว่าการจัดอบรมหลายเท่าตัว และยั่งยืน ใช้ใด้จริงมากกว่าจึงเป็นการตัดสินใจจาก ผู้บริหารระดับกลาง เป็นต้นไป

COACHING เหมาะกับใคร

COACHING เป็นวิธีการช่วย คลายล็อกปัญหาของผู้ถูกโค้ชอย่างเป็นระบบโดยเป้าหมายของการโค้ช คือจะต้องช่วยให้ผู้ถูกโค้ชสามารถ กำหนดวิธีการแก้ปัญหาของตนเองได้อย่างเป็นระบบ เปิดใจรับการติดตามปัญหา แล: ดำเนินการตามวิธีการที่ตนเองกำหนดไว้ได้ภายในเวลาที่กำหนด สามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม การ COACHING มักใช้กับปัญหาแบบ DILEMMA คือสภาวะงุนงงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก สับสน ขุ่นมัว ใช้เวลา และ ความต่อเนื่องค่อนข้างมากจึงถูกนำไปประยุกต์ใช้กับกลุ่มที่ ทำการโค้ชแล้ว คืนผลประโยชน์ต่อภาพรวมองค์กรได้มาก เช่น นักขาย ผู้บริหารระดับต้น จนถึง ระดับสูง รวมถึง กลุ่ม TALENT มีทั้งการอบรมเพื่อสร้างโค้ช และ การอบรมเพื่อใช้วิธีการโค้ชแก้ปัญหา

VIRTUAL TRAINING เหมาะกับใคร

VIRTUAL TRAINING เหมาะกับใคร

วิธีที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในยุค NEW NORMAL คือการใช้ระบบ ONLINEแต่ VIRTUAL TRAINING ไม่ใช่แค่ ONLINE แต่ต้อง REAL TIME และต้องสามารถนำเสนอ ทฤษฎี ความรู้ ประสบการณ์ วิธีการบรรยายเสมือนว่าอยู่ในห้องอบรมจริงได้ด้วย แล: ไม่ใช่เพียงวิทยากรเท่านั้นที่ต้องปรับตัว ผู้เข้าร่วมอบรมเองจะต้องให้ความร่วมมือและใช้อุปกรณ์เป็นด้วย เทคนิคสำคัญที่วิทยากรมักนำมาใช้ให้เหมาะกับแต่ละหัวข้ออบรมเช่น HOLE IN ONE, GAMIFICATION, SPOTS และ SPLIT เป็นต้น ถ้าขาดเทคนิคเหล่านี้ ก็ยากที่จะครองสมาธิของผู้เรียนไว้ได้ ดังนั้นผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่จึงเป็นระดับ หัวหน้างาน จนถึง CEO